ข้อมูลเชิงตัวเลขของคณะเราที่ควรรู้ และ SWOT Analysis
หลายท่านอาจยังไม่ทราบว่าในแต่ละปีคณะเรามียอดเงินที่ต้องบริหารจัดการมากกว่า 270 ล้านบาท เรามีจำนวนคณาจารย์ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกถึง 85 ท่าน คิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ ๘๒ ของจำนวนคณาจารย์ทั้งหมด ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงสุดในบรรดาคณะวิศวกรรมศาสตร์ทั้งประเทศ (ทั้งนี้ไม่นับรวมสถาบันศึกษาเฉพาะเช่น สถาบันวิจัยปิโตรเลียม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะพลังงานและวัสดุ มจธ. และ SIIT เป็นต้น)
ดังที่กล่าวข้างต้นเมื่อคณะเรามีคนมากขึ้น โปรแกรมการศึกษามากขึ้น ทรัพยากรที่จะต้องใช้ในการบริหารจัดการก็มากขึ้นตาม สิ่งเหล่านี้ย่อมก่อให้เกิดความยุ่งยากและซับซ้อนในการบริหารจัดการ ยิ่งคณะเราสังกัดมหาวิทยาลัยแห่งรัฐ แน่นอนว่าเราจะบริหารงานแบบร้านสะดวกซื้อ เพื่อมุ่งแสวงหาผลกำไรแบบสุดโต่งก็ไม่ได้เพราะขัดกับ พ.ร.บ. การศึกษา เพราะมีข้อจำกัดในแง่ของการควบคุมคุณภาพการศึกษาทั้งระบบ ในทำนองเดียวกันหากไม่มีรายได้จากการจัดการศึกษาโดยคณะเพื่อเลี้ยงตัวเองเลย โดยมุ่งหวังจากงบสนับสนุนจากงบประมาณแผ่นดินเพียงอย่างเดียวก็จะดูเหมือนกับว่าเป็นการบริหารจัดการไร้ประสิทธิภาพ สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ก็ได้มาถึงข้อสรุปว่า การที่เราจะบริหารจัดการคณะให้ได้ดุลยภาพ กล่าวคือได้ทั้งเงินและกล่องนั้น ย่อมต้องใช้เทคโนโลยีการจัดการในลักษณะเฉพาะที่เห็นผลรวดเร็วแต่มีความยั่งยืน และสิ่งสำคัญที่สุดอีกประการนอกเหนือจากคุณภาพการศึกษาและรายได้ของคณะแล้ว ก็คือ ความรู้สึกที่มีสุขในการทำงาน ความภาคภูมิใจและความรู้สึกที่มีความมั่นคงในหน้าที่การงานขององคาพยพในคณะของเรา ซึ่งเป็นสิ่งที่คณาจารย์และบุคลากรของคณะเราต้องการมากที่สุด ผมคิดว่าการที่เรามีความสุขในการทำงานและมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ย่อมก่อให้เกิดพลังสร้างสรรค์อันใหญ่หลวง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ก็ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของทั้งผู้บริหาร คณาจารย์และเจ้าหน้าที่ วัฒนธรรมองค์กรและสิ่งแวดล้อม กระผมได้เสนอตัวเป็นคณบดีซึ่งเป็นหัวหน้าทีมบริหารนั้น ในฐานะที่ว่าเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่มีส่วนที่จะทำให้คนในคณะมีความสุขในการทำงาน สามารถสร้างสรรค์สิ่งดีงาม และความมีประสิทธิภาพในการทำงาน ย่อมต้องเป็นส่วนสำคัญของการผลักดัน สนับสนุน และประสานงาน เพื่อก่อให้เกิดพลังสร้างสร้างสรรค์ในทุกภาคส่วน โดยเน้นการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย และบริหารจัดการโดยยึดหลักธรรมมาภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้ และไม่ยึดติดกับอำนาจ
อย่างที่เราทราบกันดีว่าคณะเราเติบโตขึ้นทุกวัน ปัญหาก็มีมากขึ้นตาม แม้ว่าคณบดีและทีมผู้บริหารทุกยุคทุกสมัยพยายามแก้ไข แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทำได้ทุกอย่าง เนื่องด้วยเทอมของการบริหารที่มีจำกัด การแก้ปัญหาก็แก้ได้บางประเด็นตามสถานการณ์ของแต่ละยุคและขึ้นอยู่กับการจัด priority ความเชี่ยวชาญและความโดดเด่นของคณบดีและทีมผู้บริหารแต่ละยุค ตลอดจนการสนองนโยบายของสภามหาวิทยาลัยที่เป็นองค์กรสูงสุด ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัยเช่นกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้คิดว่าพวกเราเข้าใจได้เช่นกัน ในฐานะผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ผู้บริหารใหม่ก็ควรเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ สิ่งไหนที่ผู้บริหารชุดก่อนทำไว้ดีแล้วก็ควรสนับสนุนต่อ สิ่งไหนที่ยังบกพร่องอยู่ก็ควรเข้ามาแก้ไขให้ดีขึ้นและเติมเต็ม และเชื่อมต่อกับนโยบายและพันธกิจใหม่ที่ผู้บริหารชุดใหม่สร้างสรรค์ขึ้นมาตามสถานการณ์
ข้อมูลส่วนที่นำเสนอต่อไปนี้นี้ (อ้างอิงปี 2553) อาจใช้เป็นประโยชน์ต่อการประเมินสถานการณ์คณะเราได้ ผมเป็นคนหนึ่งที่มักจะใช้ฐานข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เชิงประจักษ์ มาใช้ประกอบการวางแผนการทำงานมากกว่าที่จะใช้ความรู้สึกเพียงอย่างเดียวหรือข้อมูลที่เขาว่ามา สิ่งสำคัญที่สุดที่ผมให้ความเคารพมาก คือความเป็นตัวตนของคน ความหยิ่งในศักดิ์ศรีแต่ไม่ยโส และความมีเกียรติภูมิและจุดยืนของคนเอง และไม่แบ่งแยกชนชั้น
.
.
ข้อมูลบุคลากรสายวิชาการแยกตามประเภท
.
.
ข้อมูลบุคลากรสายเจ้าหน้าที่แยกตามประเภท
.
.
.
ข้อมูลนักศึกษาแยกตามประเภท
.
.
ผลการจัดสรรงบประมาณโครงการวิจัย (งบคลัง) คณะเราฯ ได้จำนวนงบประมาณน้อยกว่าคณะอื่นสายวิทยาศาสตร์สุขภาพและกายภาพหลายเท่า
.
งานวิจัยที่ตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารนานาชาติแยกตามคณะในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี 2005-2010
(ข้อมูลจากฐานข้อมูล SCOPUS โดย ศ.ดร.ผดุงศักดิ์ รัตนเดโช: December 15, 2010)
หมายเหตุ ข้อมูลนี้อยู่บนพื้นฐานของ: Affiliation = Thammasat University/Faculty of
Document Type = Article or Review (Not include Conference Paper, Letter, Thai Journal, etc.))
2011 Asian University Rankings by Subject:
Asian University Rankings - IT & Engineering 445 universities
.
SWOT Analysis
ผมได้จัดทำ SWOT Analysis เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจในคณะเรามากขึ้น ดังรายละเอียดข้างล่าง
จุดแข็งคณะเรา (Strengths)
- มีชัยภูมิที่ดี
- ความมีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยและคณะเป็นที่ยอมรับของหน่วยงาน อื่น ๆ
- เป็นคณะวิศวฯ ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ
- คุณวุฒิของคณาจารย์ใหม่จบปริญญาเอกมีมากและมีศักยภาพสูง
- อาจารย์มีความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญหลากหลาย
- มีระบบเงินสมทบเสริมพิเศษ (Top up)
- มีหลักสูตรที่มีความเชื่อมโยงกับสถาบันนานาชาติหลายแห่ง
- บัณฑิตที่จบออกไปได้รับการยอมรับจากสังคมทั้งในระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษา
- เป็นสถาบันที่มีหลักสูตรเฉพาะทั้งหลักสูตรภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
- มีการจดสิทธิบัตรอย่างต่อเนื่อง
- มีผลงานวิจัย/นักวิจัยที่เป็นที่ยอมรับทั้งระดับชาติและนานาชาติ
- มีอุปกรณ์การเรียนรู้พื้นฐานครบครัน
- มีบุคลากรที่มีความสามารถในการพัฒนาระบบ IT ให้แก่คณะ
.
จุดอ่อนคณะเรา (Weaknesses)
-
คุณภาพของนักศึกษามีความหลากหลายเมื่อเปรียบเทียบกันภายในคณะ
-
มีนักศึกษาที่เป็นชาวต่างชาติน้อย
-
นักศึกษาที่จบออกไปยังมีสัดส่วนของการได้งานทำในองค์กรชั้นนำไม่สูงมากนักเทียบกับมหาวิทยาลัยชั้นนำอื่นๆ
-
บุคลากรสายสนับสนุนส่วนหนึ่งขาดความเชี่ยวชาญในเชิงลึกในการวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูล
-
บุคลากรสายวิชาการขาดการทำงานเป็นทีม
-
ขาดระบบการพัฒนาบุคลากรทุกระดับอย่างเป็นระบบ
-
จำนวนศิษย์เก่าที่มีส่วนร่วมในการช่วยพัฒนาคณะมีน้อย
-
ขาดช่องทางการให้ความช่วยเหลือจากศิษย์เก่าและองค์กรภายนอก
-
บุคลากรขาดการทำงานเป็นทีม ทำให้หน่วยงานภายนอกไม่เข้ามาร่วมมือ
-
ขาดความคล่องตัว กฎระเบียบไม่เอื้ออำนวย
-
มีบางหลักสูตรที่มีวิชาซ้ำซ้อนกัน
-
ห้องปฏิบัติการบางส่วนไม่ทันสมัยและขาดการบำรุงรักษาอย่างเป็นระบบ
-
ขาดการประชาสัมพันธ์/เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการวิจัย
-
ขาดโครงสร้างพื้นฐานในการสนับสนุนการทำวิจัย
-
ขาดการร่วมมือในการใช้เครื่องมือปฏิบัติการและเครื่องมือสำหรับวิจัย
-
ขาดการประชาสัมพันธ์/เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับบริการวิชาการและงานวิจัย
-
ขาดงบประมาณในการพัฒนาและปรับปรุงทางด้าน IT ในอนาคต
-
บุคลากรสายคณาจารย์ส่วนใหญ่ไม่มีบทบาทต่อองค์กรวิชาชีพหรือชุมชน
-
บทบาทของคณาจารย์ในระดับผู้นำเชิงวิชาการภายในประเทศยังเห็นไม่เด่นชัด
-
ขาดความเชื่อมโยงเชิงวิชาการกับมหาวิทยาลัยคู่สัมพันธ์ในโครงการ Twinning Program
-
การจัดลำดับผลสัมฤทธิ์เชิงวิชาการและวิจัยของคณะจากองค์กรประเมินภายนอกยังไม่ดี
-
บุคลากรสายคณาจารย์และบุคลากรสายเจ้าหน้าที่มีความห่างเหินกัน
-
ระบบสวัสดิการของบุคลากรคณะ(รวมถึงพนักงานงบรายได้ และพนักงานงบโครงการ) ยังไม่สอดคล้องกับสภาพสังคมในปัจจุบัน
-
ยังขาดแผนยุทธศาสตร์การวิจัยให้มีความชัดเจน มีอัตลักษณ์ที่โดดเด่นและสอดคล้องไปกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนามหาวิทยาลัยในอีก 10 ปีข้างหน้า
โอกาส (Opportunities)
-
มีโอกาสเพิ่มสัดส่วนนักศึกษาต่างชาติ
-
ผู้บริหารเห็นความสำคัญในการพัฒนาบุคลากรของคณะ
-
มธ. เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ
-
โอกาสของการร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกมีมากขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาวะของโลก
-
สาขาวิชาเป็นที่ต้องการของสังคม
-
มีความเชื่อมโยงกับศาสตร์ด้านอื่น ๆ ในการพัฒนาหลักสูตรเพื่อความเป็นสหสาขา
-
มีแหล่งทุนวิจัยจำนวนมากจากภายนอก
-
มีหลักสูตรปริญญาโทและเอกจำนวนมาก
-
บุคลากรภายในคณะเรามีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายในการพัฒนาประเทศ
-
บุคลากรภายในคณะเรามีโอกาสพัฒนาศักยภาพในการทำงาน
-
มีทุนจากรัฐบาลและองค์กรเอกชนพอสมควร
-
ความเป็นวิศวฯ มธ. มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ
-
มีช่องทางได้รับความช่วยเหลือด้าน IT จากองค์ภายนอก
-
วุฒิภาวะผู้เข้าศึกษาลดลง
-
ความนิยมในสาขาวิศวฯ น้อยลง
-
นักศึกษามีทางเลือกมากขึ้น
-
สังคมขาดคุณธรรมและจริยธรรม
-
การเปลี่ยนแปลงระบบรับนักศึกษาเข้าศึกษา
-
เงินเดือนข้าราชการและพนักงานมหาวิทยาลัยกับมหาวิทยาลัยเอกชนต่างกันมาก
-
มีผู้สนใจที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับศาสตร์เฉพาะทางน้อย จึงไม่สามารถหาบุคลากรเฉพาะทางที่จะมาทดแทน
-
ศิษย์เก่าที่ทำงานในภาครัฐหรือองค์กรรัฐวิสาหกิจมีจำนวนลดลง
-
มีสถาบันด้านวิศวฯ จำนวนมากที่แข่งขันกับวิศวฯ มธ ทั้งหลักสูตรภาษาไทยและหลักสูตรนานาชาติ
-
ข้อจำกัดหรือกรอบหลักสูตรที่ตายตัวหรือถูกกำหนดโดยหน่วยงานอื่น
-
ผลการศึกษาของนักศึกษาเป็นอุปสรรคต่อการได้งานทำและการศึกษาต่อ
-
มีการแข่งขันในการทำวิจัยเรื่องเดียวกันจากสถาบันอื่น
-
มีงานบริการวิชาการมากเกินไปส่งผลกระทบต่องานวิจัย
-
สภาวะเศรษฐกิจของประเทศ เกิดภัยพิบัติบ่อยครั้งส่งผลต่องบประมาณด้านการศึกษาและวิจัย
-
มีการแข่งขันในการบริการวิชาการจากสถาบันอื่น
-
มหาวิทยาลัยและหน่วยงานภายนอกมองว่าคณะมีงบประมาณสนับสนุนเพียงพอ
-
การหาแหล่งทุนถูกจำกัดโดยนโยบายของภาครัฐ
-
ขาดการสนับสนุนที่เพียงพอในบางด้านจากมหาวิทยาลัย
-
กฎหมายควบคุมด้าน IT เข้มงวด
-
เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงเร็ว ทำให้ปรับตัวได้ยากในบางกรณี
|